ในยุคปัจจุบันเครื่องปรับอากาศ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “แอร์” นั้นกลายเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีความจำเป็นสำหรับที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน รวมไปถึงอีกหลายๆ สถานที่ เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยนั้นมีความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน การที่ต้องพักผ่อน ทำงาน ทานอาหาร หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในสภาพอากาศที่ร้อนเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายในเรื่องของสุขภาพได้ ดังนั้นในบทความนี้จะมาแนะนำถึง 4 ประเภทของแอร์ที่ควรรู้ก่อนก่อนเลือกใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเลือกแอร์ไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และตรงกับความต้องการมากที่สุดนั่นเอง
แอร์ติดผนัง (Wall type)
สำหรับแอร์ติดผนัง (Wall type) หรือที่เรียกปากกันว่าแอร์บ้านนั้น เป็นแอร์ที่ได้รับความนิยมสำหรับการติดตั้งภายในที่พักอาศัย หรือสำนักงานขนาดเล็กมากที่สุด เนื่องจากแอร์ประเภทนี้นั้นมีขนาดเล็ก มีน้ำหนักเบา ทำให้การขนย้าย และการติดตั้งสามารถทำได้สะดวก ซึ่งจะมีขนาดตั้งแต่ 9,000 – 36,000 BTU หรืออาจจะมากกว่าตามแต่ผู้ผลิต นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดทิศทางของลมเย็นได้ง่าย เวลาทำงานไม่ก่อให้เกิดเสียงดัง ไม่รบกวนการพักผ่อน หรือการทำงาน อีกทั้งยังเป็นแอร์ประเภทที่ช่างแอร์ส่วนมากมีความชำนาญในการติดตั้ง
แต่แอร์ติดผนังนั้นอาจจะมีข้อจำกัดในบางเรื่องที่ก่อนจะนำไปติดตั้งจำเป็นที่จะต้องพิจารณาให้ดี เพราะว่าแอร์ประเภทนี้ไม่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งกับผนังเบาประเภทต่างๆ รวมไปถึงผนังไม้ เพราะผนังเหล่านั้นอาจจะไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวเครื่องแอร์ได้ อีกทั้งยังไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องขนาดใหญ่ เนื่องจากลมเย็นจะไม่สามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง
แอร์แขวน (Ceiling type)
แอร์แขวนนั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นแอร์อีกหนึ่งประเภทที่เหมาะสมสำหรับห้องที่มีพื้นที่ตั้งแต่ขนาดปานกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ มีขนาดตั้งแต่ 12,000 – 60,000 BTU หรืออาจจะมากกว่าตามแต่ผู้ผลิต โดยการติดตั้งนั้นจะติดตั้งโดยการแขวนไว้กับเพดานห้อง หรือแขวนไว้ใต้ฝ้าเพดานนั่นเอง ด้วยความที่เป็นแอร์ขนาดใหญ่ และมีลักษณะการเป่าลมเย็นจากที่สูงลงมาโดยตรง ทำให้อากาศภายในห้องที่ติดตั้งนั้นเย็นลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังส่งประสมลมเย็นได้ไกลอีกด้วย
สำหรับการติดตั้งแอร์แบบแขวนนั้นผู้ที่ต้องการติดตั้งอาจจะต้องคำนึงถึงข้อจำกัดบางประการของแอร์ประเภทนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดเครื่องแอร์ที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก จำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างของห้องที่เหมาะสมในการติดตั้ง รวมไปถึงเมื่อเปิดใช้งานจะมีเสียงดังมากกว่าแอร์ติดผนัง หรือแอร์ฝังฝ้าเพดาน
แอร์ฝังฝ้าเพดาน (Cassette Type)
แอร์ประเภทนี้เป็นแอร์ที่ได้เหมาะสมสำหรับการติดตั้งในห้องที่เน้นในเรื่องของความสวยงามเป็นหลัก เนื่องจากเป็นแอร์ที่เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วจะซ่อนอยู่บริเวณฝ้าเพดานของห้อง โดยตำแหน่งที่นิยมติดตั้งนั้นจะอยู่บริเวณกึ่งกลางห้องเพื่อให้การกระจายลมเย็นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังมีการออกแบบเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายในรูปแบบต่างๆ ที่ต้องการซ่อนแอร์ไม่ให้ทองเห็นง่ายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นแอร์ที่มีเหมาะกับการใช้ในบริเวณค่อนข้างกว้าง ให้ความเย็นได้เร็ว โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 12,000 – 60,000 BTU หรืออาจจะมากกว่าตามแต่ผู้ผลิต
ส่วนข้อควรระวังสำหรับการเลือกใช้แอร์ฝังฝ้าเพดานนั้นคือเรื่องของการติดตั้ง เนื่องจากแอร์ประเภทนี้ต้องการช่างที่มีความชำนาญค่อนข้างมากเพราะเป็นการติดตั้งที่ต้องใช้ความละเอียด เนื่องจากเป็นแอร์ที่มีอุปกรณ์ และระบบต่างๆ ที่ซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นแอร์ที่ใช้กระแสไฟฟ้ามากกว่าแอร์ประเภทอื่นๆ ที่นิยมติดตั้งตามที่พักอาศัย หรือสำนักงานอีกด้วย
แอร์ตู้ตั้งพื้น (Package type)
แอร์ตู้ตั้งพื้นนั้นเป็นแอร์ที่สามารถติดตั้งได้ง่ายที่สุด เพียงแค่นำมาวางในตำแหน่งที่ต้องการก็สามารถที่จะใช้งานได้เลย เพียงแค่เดินท่อนิดหน่อย ไม่จำเป็นต้องเจาะยึดกับผนัง หรือเพดาน อีกทั้งยังสามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีพัดลมขนาดใหญ่กว่าแอร์ประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานพื้นที่ซึ่งมีขนาดปานกลาง ไปจนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่ จุดเด่นที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างของแอร์ประเภทนี้คือมีความทนทาน สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ซึ่งมีฝุ่น หรือควันมากกว่าปกติ มีขนาดตั้งแต่ 24,000 – 150,000 BTU หรืออาจะมากกว่าตามแต่ผู้ผลิต
ส่วนข้อที่ควรพิจารณาก่อนจะทำการติดตั้งแอร์ตู้ตั้งพื้นนั้นก็คือเรื่องของขนาดพื้นที่ เพราะแอร์ประเภทนี้นั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ใช้พื้นที่ในการวางค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเมื่อใช้งานแล้วจะมีเสียงที่ค่อนข้างดังเนื่องจากมีพัดลมขนาดใหญ่ สำหรับการดูแลรักษานั้นถ้าต้องการล้างคอยล์ก็จะทำได้ค่อนข้างยาก จำเป็นที่จะต้องใช้ช่างแอร์ที่มีความชำนาญ ทำสำคัญการใช้แอร์ประเภทนี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่ค่อนข้างมากอีกด้วย สามารถเช็คราคาแอร์ รุ่นต่างๆได้ที่ Bestairbkk.com